คลินิก แจ็บแอนด์โก บาย โรงพยาบาลวิภาวดี คลินิกเวชกรรม (Jab&Go)

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน ประโยชน์ของการ “ป้องกันที่ดีกว่ารักษา” รวมถึงความต้องการการบริการฉีดวัคซีนที่สะดวกรวดเร็ว รพ.วิภาวดีจึงได้เปิดคลินิก แจ๊บแอนด์โก บาย โรงพยาบาลวิภาวดี คลินิกเวชกรรม (Jab&Go) ขึ้นในพื้นที่ของสถานีรถไฟฟ้าพญาไท (ทางออกที่ 3) พร้อมแพทย์และพยาบาลเป็นประจำทุกวัน

 

 

ข้อมูลคลินิก แจ็บแอนด์โก บาย โรงพยาบาลวิภาวดี คลินิกเวชกรรม (Jab&Go)

    ความรู้เรื่องวัคซีน  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : bit.ly/42mufWM

HPV 9 สายพันธ์ุ เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของมะเร็งและโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักอื่นๆ อีกด้วย เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศ มะเร็งช่องปากและลำคอ โรคหูดหงอนไก่ เป็นต้นเชื้อ HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก รวมถึงการสัมผัสเชื้อทางบาดแผลตามร่างกายและการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะคลอดแม้ว่า 90% ของผู้ติดเชื้อไวรัส HPV จะสามารถหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่ติดเชื้อนานกว่านั้นและเกิดเป็นมะเร็งในที่สุด ไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถติดเชื้อ HPV ผู้ชายก็สามารถติดได้เช่นกัน และทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา คือสำหรับผู้หญิง เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่ช่องคลอด ปากช่องคลอด ทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ หูดหงอนไก่

สำหรับผู้ชาย เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ และหูดหงอนไก่
ปัจจุบันพบว่า มีเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคหลักๆมีทั้งหมด 14 สายพันธุ์ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ โดยสายพันธุ์ที่ถือว่า มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ สายพันธุ์ 16 และ 18

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร
วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Cervarix) ป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70%
วัคซีน 4 สายพันธุ์ (Gardasil) ป้องกันทั้งเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16, 18 และสายพันธุ์ 6, 11 ที่เป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่ ป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70% และป้องกันหูดหงอนไก่ได้ประมาณ 90%
วัคซีน 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) ป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18 เหมือนชนิด 4 สายพันธุ์ และอีก 5 สายพันธุ์ ได้แก่ 31, 33, 45, 52 และ 58 ซึ่งเป็นไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน วัคซีน 9 สายพันธุ์ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง        90% ขณะที่ประสิทธิภาพการป้องกันการเกิดหูดหงอนไก่เท่ากับชนิด 4 สายพันธุ์

วัคซีน HPV ต้องฉีดกี่เข็ม ห่างกันนานเท่าไร
สำหรับผู้ที่อายุ 9-14 ปี ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อแบบ 2 เข็ม โดยฉีด ที่ 0, 6-12 เดือน
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ 3 เข็ม โดยฉีด ที่ 0, 2, 6 เดือน

จำเป็นต้องตรวจร่างกายหรือตรวจภายในก่อนฉีดวัคซีน HPV หรือไม่
ไม่จำเป็น หรือาจรับวัคซีนวันเดียวกับที่ตรวจภายในได้เลย เนื่องจากยังคงแนะนำให้รับวัคซีน HPV แม้ว่าผลตรวจภายในจะผิดปกติ หรือตรวจพบเชื้อ HPV แล้วก็ตาม

เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว วัคซีนยังมีประโยชน์ หรือไม่
ยังมีประโยชน์ แต่อาจน้อยกว่าคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือติดเชื้อมาก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วจะติดเชื้อทุกคน

เคยได้รับเชื้อ HPV มาแล้ว วัคซีนยังคงมีประโยชน์ หรือไม่
มีประโยชน์ โดยวัคซีนจะป้องกันการติดเชื้อ HPV ใหม่ ในสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยติดมาก่อน หรือการติดเชื้อซ้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะวัคซีนที่สามารถครอบคลุมได้หลายสายพันธุ์ช่วยลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งหรือโรคต่างๆ

วัคซีนสามารถให้คนตั้งครรภ์ ได้หรือไม่
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอ และควบคุมที่ดีในสตรีตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามถ้าได้รับวัคซีนไปแล้ว หลังคลอดสามารถได้รับวัคซีนได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่

วัคซีนสามารถให้ได้ในสตรี ให้นมบุตรได้หรือไม่
วัคซีนสามารถได้ในสตรีให้นมบุตร


หมายเหตุ
วัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากฉีดครบตามกำหนด ฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย หรือฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เนื่องจากยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน แต่หากมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้เช่นกัน เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจลดลง

แพคเกจและโปรโมชั่นคลินิก แจ็บแอนด์โก บาย โรงพยาบาลวิภาวดี คลินิกเวชกรรม (Jab&Go)

ทีมแพทย์คลินิก แจ็บแอนด์โก บาย โรงพยาบาลวิภาวดี คลินิกเวชกรรม (Jab&Go)

<