สเตียรอยด์ ภัยเงียบที่คุณควรรู้

สเตียรอยด์ ภัยเงียบที่คุณควรรู้

          เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสพาเพื่อนคนหนึ่งไปพบแพทย์เนื่องจากเธอมีผื่นผดเม็ดเล็กๆ คล้ายหัวสิวขึ้นแดงกระจายเป็นวงกว้างบริเวณหน้าอกจนถึงต้นคอที่ร้ายคือคันยุบยิบตลอดเวลา สร้างความรำคาญใจเป็นอันมาก

สเตียรอยด์  "ภัยเงียบที่คุณควรรู้"
               เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสพาเพื่อนคนหนึ่งไปพบแพทย์เนื่องจากเธอมีผื่นผดเม็ดเล็กๆ คล้ายหัวสิวขึ้นแดงกระจายเป็นวงกว้างบริเวณหน้าอกจนถึงต้นคอที่ร้ายคือคันยุบยิบตลอดเวลา สร้างความรำคาญใจเป็นอันมาก สุดท้ายแล้วแพทย์ได้วินิจฉัยว่าอาการดังกล่าวเกิดจากการรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ ‘สเตียรอยด์’ มากเกินไป เพราะเพื่อนคนนี้มัก เป็นภูมิแพ้ผื่นคันเมื่อไปพบแพทย์ที่คลินิกแถวบ้านก็มักจะได้ชุดยามา เมื่อรับประทานแล้วอาการคันหรือตุ่มเม็ดจะหายไวทันตาเห็น แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่สเตียรอยด์ก็มีประโยชน์ในการรักษาโรคภัยต่างๆ อยู่ไม่น้อย เพียงแต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นแล้วอาจกลับกลายเป็นภัยเงียบว่อนอยู่ในร่างกายแทน ลองมาดูคร่าวๆว่า สเตีรอยด์สามารถก่อผลลัพธ์อันใดกับร่างกายเราได้บ้าง 

สเตียรอยด์  คืออะไร
            สเตียรอยด์คือสารคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ร่างกายผลิตได้เองจากต่อหมวกไต มีประโยชน์ในการควบคุมและสะสมพลังงานจากแป้งและโปรตีนที่เรารับประทานเข้าไปช่วยปรับสภาวะร่างกายเมื่อเกิดความเครียดบรรเทาการอักเสบของร่างกายรวมถึงมีผลต่อการแบ่งเวลล์ กล้ามเนื้อกระดูก และ ลอดเลือด ดังนั้นร่างกายจึงไม่สามารถขาดสเตียรอยด์ได้เลย

ผลข้างเคียงของ ‘สเตียรอยด์
            จากที่ได้เกริ่นนำมาแล้วว่าสเตียรอยด์มีประโยชน์ค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงมีการผลิตยาหรือสารเลียนแบบขึ้นมาเพื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ดังต่อไปนี้

  • ระคายเคืยงต่อระบบทางเดินอาหารบารรายอาจรุนแรงถึงขั้นมีเลือดออกในทางเดินอาหาร
  • เกิดภาวะโลหิตจาง
  • มีใบหน้ากลม (Moon Face)
  • เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหลังและคอ ( Buffalo Hump)
  • อว้นบริเวนกลางลำตัว ( Truncal obesity)
  • ขนงอกขึ้นผิดปกติ (Hersutism)
  • ผิวหนังแตกตามลำตัว (Red Striae)

           นอกจากอาการทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ทำให้ติดเชื้อง่าย ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ตลอดจนภาวะกระกพรุน ในกรณีของเพื่อนผู้เขียนนั้นมีอาการสิวที่เกิดจาก เตียรอยด์อยู่ด้วย เนื่องจากร่างกายมี ะดับสเตียรอยด์ สูงเกินให้ผิวบาง รูขุมขนกว้างส่งผลให้ไขมันอุดตันจนเกิดสิวอักเสบได้ง่าย สุดท้ายแล้วคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้รับประทานหรือทายาที่มีส่วนผสมของ เตียรอยด์อีกเลย เพราะตับมีพิษสะสมจนไม่สามารถผลิตภูมิคุ้มกันได้ ทำให้ร่างกายอ่อนแอติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะ คนที่เป็นภูมิแพ้    ก็จะเกิดผดผื่นคันได้ง่ายขึ้นทั้งยังเป็นการกดภูมิคุ้มกันโรค จนอาการเจ็บป่วยต่างๆไม่ปรากฏ ท้ายที่สุดแล้วเชื้อโรคอาจแพร่กระจายไปทั่วร่างกายจนถึงขั้นร้ายแรงในที่สุด

           กล่าวโดยสรุปแล้วแม้ว่าสเตียรอยด์จะมีประโยชน์เหลือคณา แต่ก็ร้ายไม่เบาหากใช้อย่างผิดวิธี ดังนั้นการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด มิเช่นนั้นแล้วร่างกายอาจถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว

Did you Know?
          แหล่งที่มักพบว่ามีการผสมยาสเตียรอยด์ลงไปคือยาลูกกลอน ยาแผนโบราน รวมถึงยาชุดที่ได้จากร้านขายยา ซึ่งมักหลายสีแตกต่างกันไป ดังนั้นผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่ไม่มีทะเบียน รวมถึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ด้วย

                                                         
           นิตยสาร Healthy Tips

<