การทําความสะอาดบ้าน...อย่างปลอดภัย

การทําความสะอาดบ้าน...อย่างปลอดภัย

             การเช็ดล้างเป็นการทําความสะอาดพื้นผิว แต่อาจจะยังไม่สามารถทําให้เชื้อราตายได้ จึงควรใช้สารฆ่าเชื้อราเพื่อให้มั่นใจในการหยุดยั้งการทําอันตรายต่อสุขภาพ

หลักการและวิธีทําความสะอาด

            แยกพื้นที่ที่จะทําความสะอาดให้อยู่ในวงจํากัดในมุมหนึ่งของบ้านและควรทํานอกอาคารถ้าเป็นไปได้  ในกรณี ที่วัสดุนั้นๆยากแก่การทําความสะอาดหรือ มีรูพรุนมากมี เชื้อรามากให้คัดแยกวัสดุนั้นทิ้งไป ตัวอย่างเช่น  กระดาษฉนวน พรมรองพื้น ฝ้าเพดาน ยิบซัมฝ้าผนัง ผลิตภัณฑ์ไม้ที่บดอัดขึ้นรูป เป็นต้น ในการ ทิ้งต้องห่อด้วยพลาสติกกันการฟุ้งกระจายของสปอร์ราด้วย 
 

            พึงตระหนักว่าการเช็ดล้างเป็นการทําความสะอาดพื้นผิว แต่อาจจะยังไม่สามารถทําให้เชื้อราตายได้ จึงควรใช้สารฆ่าเชื้อราเพื่อให้มั่นใจในการหยุดยั้งการทําอันตรายต่อสุขภาพ เชื้อราที่ตายไปแล้วยังคงสามารถ ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเช่นกันซึ่งเป็นผลจากการผลิตสารพิษของเชื้อรา 
 

            เฝ้าระวังการเกิดราใหม่เสมอทํา ถ้าหากผลยังไม่เป็นที่พอใจและต้องลดกิจกรรมใดๆที่จะทําให้มี ความชื้นอยู่ใน อากาศนานๆเช่น การตากผ้าในบ้าน การต้มน้ำ ทํากับข้าวภายในบ้านการปิดเครื่องปรับอากาศแล้วเปิดหน้าต่างทันที เป็นต้น 
 

           กรณี พื้นผิววัสดุที่ขึ้นรามี สภาพแห้งและรามี ลักษณะฟู เห็นเส้นใยโผล่ออกมาต้องระวังห้ามใช้ผ้าแห้ง เช็ดเพราะสปอร์ของราจะฟุ้งกระจายได้ และไม่ควรเปิดพัดลมเพราะแรงลมจะยิ่งทําให้สปอร์ของราฟุ้งกระจายได้ ง่ายขึ้น ให้ใช้กระดาษทิชชูเนื้อเหนียวแผ่นหนาและขนาดใหญ่ๆจะดีมากพรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย(หรือใช้กระดาษ หนังสือพิมพ์ก็ได้) ชุบน้ำพอหมาดๆเช็ดพื้นผิวโดยให้เช็ดจากล่างขึ้นบนหรือจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ แต่ต้องเช็ดไปทางเดียวเท่านั้น   ห้ามเช็ดย้อนไปมา  เช็ดแล้วทิ้งเลย  ไม่เช็ดถูไปถูมา  ไม่ต้องประหยัดเพราะจะทํา ให้มันหลุดออกไม่หมด  (หลุดไปแล้วกลับมาติดใหม่  ) กระดาษที่เช็ดนี้ควรรวบรวมใส่ถุงขยะขนาดใหญ่ และ ระมัดระวังในการขยับปากถุงอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้สปอร์ของราฟุ้งกระจายง่ายจากลมกระพือขณะเปิดปิดปากถุง 
 

            ผสมน้ำกับสบู่ แล้วเช็ดซ้ำแบบเดิมอีก ไม่แนะนําให้ใช้ผงซักฟอกเพราะหลังการซักล้างจะสร้างปัญหา น้ำเสียตามมาเนื่องจากส่วนผสมในผงซักฟอกจะมีแป้งและซัลเฟตที่เป็นอาหารของเชื้อรา
 

การเช็ดครั้งที่ 3 นี้ให้ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อราเช็ด จะเช็ดซ้ำไปมาก็ได้ น้ำยาที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราได้มีหลายชนิดควรใช้ ให้ถูกชนิดกับวัสดุ ตัวอย่างของน้ำยาที่มี ฤทธิ์ฆ่าเชื้อราแบบอ่อนได้แก่ 

  1. น้ำส้มสายชู สูตรกลั่นหรือหมักก็ได้ (ควรมี ความเข้มข้นอย่างน้อย 7 %) ควรใช้กับกระดาษดี กว่าผ้า เพราะจะได้ไม่ต้องซัก หรือใส่ขวดสเปรย์ก็ได้ สเปรย์ตั้งทิ้งไว้สัก  5-10 นาที แล้วก็ เช็ดเลย กําจัดได้ในระดับน่าพอใจ (80%) แต่ไม่สามารถฆ่าสปอร์ได้ 
  2. Tea tree oil ใช้ 2 ช้อนชาใน น้ำ 2 ถ้วยใส่ขวดสเปรย์เบาๆบนบริเวณที่ต้องการแล้วเช็ดเหลือเก็บใส่ขวดเก็บไว้ใช้ได้นานมี กลิ่นฉุนฆ่าราได้หลายชนิดแต่มี ราคาแพง 
  3. Grapefruit seed extract ใช้ 20 หยดใส่ใน น้ำ 2 ถ้วยใส่ขวดสเปรย์เบาๆ บนบริ เวณที่ต้องการแล้วเช็ดออกได้เลยมี ราคาแพงแต่ไม่มี กลิ่น
<