ภาวะกรดไหลย้อนเข้าหลอดอาหารอย่างไรผิดปกติ ?

ภาวะกรดไหลย้อนเข้าหลอดอาหารอย่างไรผิดปกติ ?

 โรคกรดไหลย้อนเข้าหลอดคอ คืออะไร (Gastroesophageal Reflux Disease : GERD)  
           ภาวะที่กรดในกระเพาะอาหาร  จะถูกหลั่งออกมาเพื่อการย่อยอาหาร  กรดในกระเพาะนั้นไม่มีการไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหารส่วนบน  แต่ในภาวะผิดปกติ  กรกนี้อาจไหลย้อนผ่านกล้ามเนื้อหูรูดส่วนบนของหลอดอาหาร  ซึ่งอาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบ  และมีแผล (erosive esophagitis) หรือหลอดอาหารอักเสบโดยไม่เกิดแผล (non-erosive esophagitis)

           นอกจากนี้  กรดนี้อาจไหลย้อนผ่านหลอดอาหารเข้าสู่หลอดคอและกล่องเสียง (Laryngopharyngeal reflux : LPR)  เกิดพยาธิสภาพต่าง ๆ เพราะเยื่อบุกล่องเสียง  และหลอดคอบอบบางทนสภาวะกรดได้ไม่ดี  รวมทั้งอาจก่อปัญหาด้านระบบการหายใจและปอด  ปัจจัยหรือพฤติกรรมบางอย่าง  เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการไหลย้อนกลับ  ของกรดหรือน้ำย่อยจากหลอดอาหารภาวะนี้เกิดได้ตลอดเวลา  และไม่ว่ากำลังรับประทานอาหารหรือไม่ก็ตามพบอาการนี้ได้ตั้งแต่ทารกจนถึงผู้ใหญ่

 

อาการทางคอและหลอดอาหาร

·       รู้สึกคล้ายมีก้อนอยู่ในคอ

·       กลืนลำบาก  ติดขัด  คล้ายสะดุดสิ่งแปลกปลอมในคอ  หรือกลืนแล้วเจ็บ

·       เจ็บคอ  หรือแสบปาก  หรือเจ็บเรื้อรัง  โดยเฉพาะในตอนเช้า

·       รู้สึกมีเสมหะอยู่ในลำคอ  หรือระคายคอตลอดเวลา

·       เรอบ่อย  คลื่นไส้  คล้ายมีอาหาร  หรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาในอก  หรือคอ

·       อาการปวดแสบปวดร้อน  บริเวณหน้าอก  และลิ้นปี่ (Heartburn) บางครั้งร้าวไปถึงบริเวณคอ  และไหล่

·       รู้สึกจุดแน่นในคอ  หรือหน้าอก  คล้ายอาหารไม่ย่อย (dyspepsia)

·       มีกลิ่นปาก  เสียวฟัน  หรือมีฟันผุ

อาการทางกล่องเสียงและปอด

·       เสียงแหบเรื้อรัง  หรือแหบเฉพาะตอนเช้า  มีเสียงผิดไปจากเดิม

·       ไอเรื้อรัง,  ไอ หรือรู้สึกสำลักน้ำลาย  หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน  จนอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึก

·       กระแอม  ไอบ่อย ๆ

·       อาการหอบหืดที่เคยเป็นอยู่(ถ้ามี)  แย่ลง  หรือไม่ดีขึ้นจากการใช้ยา

·       เจ็บหน้าอก (non-cardiac chest pain)

·       เป็นโรคปอดอักเสบ  เป็น ๆ หาย ๆ          

อาการที่กล่าวข้างต้น  อาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นตลอดให้ปรึกษาแพทย์  หู คอ จมูก  ซึ่งแพทย์จะตรวจทาง  หู  คอ  จมูก  เพื่อดูว่ามีความผิดปกติบริเวณกล่องเสียง  และคอหรือไม่  เพื่อแนะนำการรักษาและปฏิบัติตัวต่อไป

ภาวะกรดไหลย้อนรักษาอย่างไร  ขึ้นอยู่กับอาการ  และสุขภาพของแต่ละคน  โดยทั่วไปหลักการรักษามี 3 ประการ

1.      ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปนิสัย  และงดเว้นอาหารบางอย่างเพื่อลดภาวะกรดไหลย้อน

2.      การใช้ยาลดกรดที่ถูกต้อง  มักจำเป็นต้องใช้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ร่วมกับปฏิบัติในข้อ 1.

3.      การผ่าตัดรัดหูรูดกระเพาะอาหาร  จำทำให้รายที่เป็นรุนแรง  และไม่ตอบสนองต่อยา

 

เทคนิคในการลดภาวะกรดไหลย้อน

           การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษา  เพื่อให้อาการหายขาด  และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรค  โดยปฏิบัติดังนี้   

          หลีกเลี่ยงอาหาร  และเครื่องดื่ม  ได้แก่  ชา  กาแฟ  น้ำอัดลม  อาหารทอด  อาหารรสจัด  อาหารมัน ๆ ช็อคโกแลต  ผักผลไม้บางชนิด  เช่น  ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว  สะระแหน่  หอมหัวใหญ่  ถั่ว  นม  (ดื่มนมพร่องมันเนยได้)

·       ระวังน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป

·       หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา  สูบบุหรี่  โดยเฉพาะช่วงเย็น

·       อย่านอนราบหลังจากเพิ่มรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ โดยเฉพาะใน 3 ชั่วโมงแรก

·       อย่าใส่เสื้อผ้าคับโดยเฉพาะบริเวณรอบเอว

·       หมุนหัวเตียงให้สูง  อย่างน้อย 6 นิ้ว

·       ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  อย่าเครียด

·       ทำจิตใจให้สบาย  แจ่มใส

 

ช่วงระยะเวลาของการรักษา

             ส่วนใหญ่ผู้ป่วยต้องรักษาค่อนข้างต่อเนื่อง  ตั้งแต่ 6 อาทิตย์  ถึง  6 เดือน   บางคนอาการจะหายไปอย่างสิ้นเชิง  ซึ่งอาจหยุดยาได้หลายเดือน  หรือหลายปี   ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนนิสัยหรือสภาพแวดล้อม  พยาธิสภาพของแต่ละบุคคล  และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า  โรคนี้อาจหายขาดไปเลย  หรืออาจกลับมาเป็นใหม่ได้อีก

 

***ถ้าท่านมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นภาวะกรดไหลย้อนเข้าหลอดคอ  โปรดปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก

<