โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

  • Abdominal Aortic Aneurysm คือ โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงมีอาการบวม โป่งพองมากกว่าปกติ อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
  • โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง สามารถพบได้ใน 2 ตำแหน่ง คือ บริเวณช่องอก และบริเวณช่องท้อง
  • โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ จนเมื่อหลอดเลือดโตมากๆผู้ป่วยจึงจะเจ็บหน้าอกรู้สึกกดเบียดที่บริเวณอวัยวะต่างๆ เช่น เกิดการกดเบียดที่หลอดลม หลอดอาหาร เป็นต้น
  • สาเหตุของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง มักเกิดจากพันธุกรรม โรคประจำตัว และพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่
  • การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง สามารถทำได้ 3 รูปแบบ คือ การรักษาด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยง การรักษาด้วยการผ่าตัดแบบเปิด และการรักษาผ่านทางสายสวนด้วยการใส่หลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวด เป็นต้น

บทความนี้จะพาไปรู้จัก Aortic Aneurysm หรือโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองว่าคืออะไร แล้วมาสังเกตอาการของโรคนี้ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

Aortic Aneurysm คืออะไร

Aortic Aneurysm คืออะไร

โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หรือAortic Aneurysmคือ การที่หลอดเลือดแดงใหญ่ (Aorta) ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายในร่างกาย เกิดความผิดปกติขึ้นมา เช่น เกิดการขยายออกจนโป่งพอง หรืออักเสบหนักจนหลอดเลือดปริแตก จึงทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกายได้

อีกทั้งโรคนี้มักไม่แสดงอาการข้างเคียงใดๆ จึงเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่รอทำงาน เมื่อเป็นหนักจนเกิดการโป่งพอง หรือเส้นเลือดปริแตกขึ้นมา ผู้ป่วยจะมีอาการปวดอย่างรุนแรงที่บริเวณช่องอก หรือช่องท้อง เกิดเลือดออกภายในร่างกายส่งผลถึงชีวิต โดยหากเกิดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองจนแตก จะมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 80 - 90% เลยทีเดียว

สังเกตอาการโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

สังเกตอาการโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง จะเกิดบริเวณ 2 ตำแหน่งภายในร่างกาย ได้แก่ บริเวณช่องท้อง หรือบริเวณช่องอก โดยอาการส่วนใหญ่จะสังเกตได้ยาก เนื่องจากเป็นอาการที่พบได้โดยทั่วไป เช่น ปวดท้อง ปวดหลัง

แต่จะสามารถพบได้ผ่านทางการเอกซเรย์ หรือสามารถสังเกตอาการผิดปกติเพิ่มเติมได้ หากเกิดการกดเบียดของหลอดเลือดตามอวัยวะต่างๆ ดังนี้

  • หลอดเลือดบริเวณหลอดลมถูกกดเบียด ทำให้หายใจติดขัด

  • หลอดเลือดบริเวณหลอดอาหารถูกกดเบียด ทำให้กลืนอาหารลำบาก

  • หลอดเลือดบริเวณเส้นประสาทที่กล่องเสียงถูกกดเบียด ทำให้เสียงแหบ

ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก ปวดหลัง หน้ามืด ไอเป็นเลือด อาจเกิดภาวะหลอดเลือดปริแตกซึ่งเป็นภาวะวิกฤตเร่งด่วน จึงแนะนำให้รีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

สาเหตุของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

สาเหตุของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง มีดังนี้

  • พันธุกรรมผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองจะมีความเสี่ยงเป็นโรคมากกว่าคนทั่วไป

  • ผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิดเช่น กลุ่มมาร์แฟน (Marfan Syndrome) จะมีรูปร่างสูง ผอม นิ้วมือนิ้วเท้ายาวกว่าปกติ กลุ่มคนเหล่านี้จะมีภาวะแทรกซ้อนเป็นโรคลิ้นหัวใจไมทรัลหย่อน(Mitral Valve Prolapse) หรือเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองตั้งแต่วัยหนุ่มสาว

  • ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจะทำให้แรงดันในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดแรงดันชนผนังหลอดเลือดมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดใหญ่โป่งพอง และหลอดเลือดแตก

  • ผู้ที่สูบบุหรี่สารพิษในควันบุหรี่ทำให้เลือดมีความหนืดมากขึ้น ส่งผลต่อการเกิดหลอดเลือดตีบ

ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองนั้น แทบจะไม่มีอาการที่สามารถสังเกตได้ชัด ดังนั้นการวินิจฉัยโรคของแพทย์มักปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

  1. พิจารณาจากความเสี่ยง เช่น ประวัติคนในครอบครัว โรคประจำตัวต่างๆ

  2. สอบถามอาการที่เกี่ยวข้อง เช่น มีอาการปวดหัว แน่นหน้าอก หรือปวดบริเวณช่วงท้อง คลำเจอก้อนที่เคลื่อนไหวได้ในช่องท้อง

  3. สอบถามอาการแทรกซ้อนที่อาจเกี่ยวข้อง เช่น อาการหายใจลำบาก กลืนอาหารลำบาก หรือเสียงแหบ

  4. ทำการเอกซเรย์ช่องอก และช่องท้องเพื่อตรวจดูหลอดเลือด

  5. ทำการตรวจสอบด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์(Ultrasound) และการถ่ายภาพเอกซเรย์

  6. ทำการตรวจสอบด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan)

  7. แพทย์ทำการวินิจฉัยโรค พร้อมแนะแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย

วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

โดยทั่วไปแล้วมีวิธีการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองหลายรูปแบบ ทั้งการรักษาโดยการผ่าตัด หรือการติดตามเฝ้าดูอาการเป็นระยะเพื่อประเมินความเสี่ยง โดยสามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้

1. รักษาด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยง

เริ่มจากการรักษาด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยง สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองที่อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ แพทย์จะแนะนำให้ติดตามอาการเป็นระยะ โดยใช้วิธีการรักษาด้วยการคุมปัจจัยเสี่ยงแทนเช่น ควบคุมระดับความดันโลหิต หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และติดตามโดยการUltrasound หรือ CT Scan เป็นต้น

2. รักษาด้วยการผ่าตัดแบบเปิด

การรักษาด้วยการผ่าตัดแบบเปิด เป็นผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณช่องอก หรือบริเวณช่องท้อง จากนั้นทำการตักหลอดเลือดใหญ่ที่โป่งพองออก และใส่หลอดเลือดเทียมเข้าไปแทนที่

3การรักษาด้วยการใส่หลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวดผ่านทางสายสวน

การรักษาด้วยการผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวด เป็นการผ่าตัดที่เหมาะกับคนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดใหญ่ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง

โดยวิธีนี้เป็นการผ่าตัดผ่านทางหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบ แล้วทำการสอดหลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวดเข้าไปตรงตำแหน่งหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองภายในช่องอก หรือบริเวณช่องท้อง วิธีนี้จะมีแผลผ่าตัดที่เล็กมาก(Mini Surgery)

วิธีการป้องกันโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

วิธีการป้องกันโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

สำหรับวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ควันบุหรี่มีก๊าซคาร์บอนมอนอ๊อกไซด์ที่จะไปแย่งจับออกซิเจนภายในเลือด ทำให้หลอดเลือดรับออกซิเจนได้น้อยลง ส่งผลให้หลอดเลือดเปราะแตกง่าย

  • ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองและหลอดเลือดแดงฉกขาดได้มากกว่าปกติ

  • ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งควรตรวจร่างกายให้ละเอียด แนะนำให้เอกซเรย์ปอดทำอัลตราซาวนด์บริเวณช่องท้อง ตรวจการทำงานของตับและไต รวมถึงทดสอบสมรรถภาพของหัวใจโดยการเดินสายพาน(Exercise Stress Test )

การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองที่โรงพยาบาลวิภาวดี

ที่โรงพยาบาลวิภาวดีมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหัวใจและหลอดเลือดโดยเฉพาะ ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยที่ต้องการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง โดยสามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการผ่าตัด

เพื่อให้การรักษาสามารถทำได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถนัดหมายได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลวิภาวดีและสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ที่นี่และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ประกันผู้ป่วย สามารถสอบถามค่าใช้จ่าย และค่าผ่าตัดประมาณการได้ที่แผนกผู้ป่วยในโทรศัพท์: 02-561-1111 ต่อ 4137,4139นอกจากนี้ยังมีช่องทางสำหรับการติดต่อของตัวแทนประกันชีวิตต่างๆ ทางLine ID: @vibhainsurance

สรุป

โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หรือ aortic aneurysm คือการที่หลอดเลือดแดงใหญ่เกิดการโป่งพอง เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดแตก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัดแบบเปิดหรือผ่านทางสายสวน ทั้งนี้รูปแบบการผ่าตัดที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย

นอกจากนี้ โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองมักไม่แสดงอาการของโรคที่ชัดเจน จึงควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายที่ยากต่อการสังเกต

สำหรับกรณีที่มีอาการเข้าข่ายโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ทางโรงพยาบาลวิภาวดีได้มีบริการตรวจสุขภาพหัวใจเพื่อการตรวจสอบสุขภาพหัวใจว่ามีความเสี่ยงมากแค่ไหน ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงสามารถทำให้สามารถหาวิธีการรักษาที่ดีกับผู้ป่วยต่อไปได้

และสำหรับใครที่สนใจแพ็กเกจตรวจสุขภาพของทางโรงพยาบาลวิภาวดี สามารถเข้าไปเลือกซื้อแพ็กเกจที่เหมาะสม หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-561-1111

FAQ

ทางโรงพยาบาลวิภาวดีได้รวบรวมคำถามที่เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หรือ Abdominal Aortic Aneurysm เอาไว้ให้แล้ว ดังนี้

หลอดเลือดแดงใหญ่มีหน้าที่ทำอะไร?

หลอดเลือดแดงใหญ่ ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงเลือดไปสู่อวัยวะสำคัญภายในร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ ไต โดยเมื่อเกิดความผิดปกติที่หลอดเลือดแดงใหญ่ จนหลอดเลือดแดงโป่งพอง หรือหลอดเลือดแตก จะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้อวัยวะภายในขาดเลือดหล่อเลี้ยง เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

หลังผ่าตัดรักษา Aortic Aneurysm ควรปฏิบัติอย่างไร?

การผ่าตัดรักษาAortic Aneurysmหรือการผ่าตัดรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยควรนอนพักในห้องพักฟื้นที่มีทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดภาวะเลือดออกบริเวณแผลผ่าตัด หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ภาวะขาดเลือดบริเวณหลอดเลือดส่วนปลาย อาจเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเกิดภาวะชัก

ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดมีอะไรบ้าง?

ภาวะแทรกซ้อนหลังจากผ่าตัดรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองอาจเกิดได้หลายรูปแบบ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต ดังนั้น ก่อนทำการผ่าตัดแพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวคนไข้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111

ศูนย์หัวใจวิภาวดี ชั้น 3 อาคาร 1

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.