อาการหลงลืมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของสมองย่อมถดถอยไปตามวัย แต่หากอาการหลงลืมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อาจเป็นสัญญาณของ “โรคสมองเสื่อม” ที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง
มาดูว่าโรคสมองเสื่อมอาการเป็นอย่างไร สาเหตุของโรคสมองเสื่อมเกิดจากอะไรได้บ้าง รวมถึงวิธีรักษาและวิธีป้องกัน เพื่อเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที
โรคสมองเสื่อม เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ทำให้ความสามารถในการจดจำ การรับรู้ การคิด การตัดสินใจบกพร่อง จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย
ส่วนใหญ่โรคสมองเสื่อมมักพบในผู้สูงอายุ แต่ก็มีโอกาสพบในวัยทำงานได้เช่นกัน จากสถิติพบว่า ในปี 2565 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมสูงถึง 770,000 คน หรือคิดเป็นประมาณ 6% ของผู้สูงอายุทั้งประเทศ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 100,000 คน และคาดการณ์ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
ความรุนแรงของโรคสมองเสื่อมแบ่งตามอาการได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้
สาเหตุของโรคสมองเสื่อมเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม มีดังนี้
แพทย์จะประเมินหาสาเหตุ และแยกโรคที่อาจมีอาการคล้ายกัน เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยกระบวนการตรวจวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมจะประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
วิธีรักษาโรคสมองเสื่อมจะพิจารณาจากสาเหตุ ระยะของอาการ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น พฤติกรรมและอารมณ์ของผู้ป่วย ความสะดวกของผู้ดูแล โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
วิธีรักษาโรคสมองเสื่อมด้วยยา ช่วยประคับประคองอาการในบางกรณี เช่น โรคสมองเสื่อมที่เกิดจากโรคอัลไซเมอร์ หรือจากโรคหลอดเลือดสมอง ยาจะช่วยบรรเทาอาการทางสมอง ทำให้ผู้ป่วยดูแลตนเองได้ดีขึ้น บางรายอาจได้รับยากลุ่มต้านเศร้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตามการใช้ยาทุกชนิดจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ควรซื้อมารับประทานเอง เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้
วิธีรักษาโรคสมองเสื่อมแบบไม่ใช้ยาควรทำควบคู่กับการรักษาด้วยยา หรือใช้ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวบางอย่างทำให้ไม่สามารถใช้ยาได้ แพทย์จะวางแผนการรักษาร่วมกับผู้ดูแล โดยให้ความรู้เกี่ยวกับโรค และวิธีการรับมือกับอาการที่เกิดขึ้น เน้นไปที่การปรับพฤติกรรม เช่น กำหนดกิจวัตรประจำวันให้คงที่ ทั้งเรื่องการกิน ออกกำลังกาย อาบน้ำ และเข้านอน รวมถึงให้ผู้ป่วยกระตุ้นสมองผ่านกิจกรรมที่ช่วยฝึกความจำ และทักษะการเคลื่อนไหว เช่น เล่นเกม เล่นไพ่ ทำงานฝีมือ ศิลปะบำบัด สวดมนต์ รำไทเก๊ก
โรคสมองเสื่อม เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มอาการที่เกิดจากความเสื่อมของสมอง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนโรคอัลไซเมอร์ คือโรคที่เกิดจากความการสะสมของโปรตีนเบตา - อะไมลอยด์ (Beta - amyloid) และทาว (Tau) รอบๆ เซลล์ประสาทที่มากผิดปกติ ทำให้เซลล์สมองเสียหาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้จึงทำหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นโรคเดียวกัน
แม้การป้องกันโรคสมองเสื่อมจะยังไม่มีวิธีการที่แน่นอน แต่ก็มีหลายวิธีที่อาจช่วยลดความเสี่ยงได้ เช่น
โรงพยาบาลวิภาวดีให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคสมองเสื่อม โดยแพทย์เฉพาะทางแผนกอายุรกรรมประสาท นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมตรวจสุขภาพสมองเสื่อม ซึ่งรวมทั้งการตรวจเลือด และสแกนสมองเครื่องสนามแม่เหล็ก (MRI Brain Dementia Protocol) ไว้ในแพ็กเกจเดียว ในราคาเริ่มต้น 17,900 บาท (ราคานี้ไม่ร่วมค่ายา และเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีดสี ซึ่งการฉีดสีขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ด้านรังสีวินิจฉัย) ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และนัดหมายได้ที่ แผนกสมองและระบบประสาท โทร. 0-2561-1111 ต่อ 1221, 1222, 1214 ตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น.
โรคสมองเสื่อม เป็นภาวะที่สมองทำงานผิดปกติซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยมีสาเหตุหลักมาจากโรคอัลไซเมอร์ที่ทำให้เซลล์สมองเสื่อม และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสมอง เช่น พันธุกรรม โรคประจำตัว อุบัติเหตุ การดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่ การรักษาในปัจจุบันสามารถทำได้โดยการใช้ยาที่ช่วยชะลอการเสื่อม ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยง หรือมีสัญญาณของอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม เช่น หลงลืมบ่อยๆ จำนัดสำคัญไม่ได้ ลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเรื่องราวที่เพิ่งพูดไป มีปัญหาในการสื่อสาร
เข้ารับบริการ โปรแกรมตรวจสุขภาพสมองเสื่อม ได้ที่โรงพยาบาลวิภาวดีเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพสมอง และรับมือกับอาการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
บทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อม พร้อมคำตอบจากแพทย์มาคลายข้อสงสัยเพิ่มเติม ดังนี้
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีอาการหลงลืมในเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน นึกคำพูดไม่ออก ลืมเรื่องสำคัญ เช่น การนัดหมาย เรื่องที่ต้องทำ ชื่อเพื่อนสนิทที่เจอกันประจำ สับสนเรื่องวัน เวลา สถานที่ เดินทางไปที่คุ้นเคยแล้วกลับบ้านไม่ถูก หรือจำไม่ได้ว่ามาถึงที่นั่นได้อย่างไร ซึ่งเป็นอาการที่รุนแรงกว่าการหลงลืมทั่วไปมาก
การรักษาโรคสมองเสื่อมขึ้นอยู่กับสาเหตุ บางชนิดสามารถรักษาให้หายได้ เช่น สมองเสื่อมจากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ รักษาได้ด้วยการรับประทานยา แต่หากเกิดจากโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่พบในคนส่วนใหญ่ ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่มียาที่ช่วยชะลออาการของโรคได้
ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมอาจมีอายุอยู่ได้ประมาณ 7-10 ปี เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคสมองเสื่อมได้ จึงทำได้เพียงให้ยาเพื่อช่วยชะลอความรุนแรงของโรคให้ช้าที่สุดเท่านั้น
เมื่อมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จิตใจของคนเราจะมีกลไกป้องกันตัวเองโดยฝังเรื่องราวเหล่านั้นไว้ในจิตใต้สำนึก คล้ายกับความทรงจำในวัยเด็กบางเรื่องที่ถูกลืมไป ทำให้ผู้ป่วยจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้ชั่วคราว แต่ยังจำเรื่องราวในอดีต และรับรู้สิ่งอื่นๆ ได้ตามปกติ
โรคสมองเสื่อมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแก่ชรา ผู้สูงอายุทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นโรคสมองเสื่อมเสมอไป หลายคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แม้บางครั้งอาจมีอาการหลงลืม เช่น ลืมว่าวางของไว้ที่ไหน หรือจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ แต่ไม่ถึงขั้นกระทบต่อชีวิตประจำวัน
การดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมต้องใช้ความใจเย็น และความเข้าใจ เนื่องจากผู้ป่วยมักจะอารมณ์เสียง่าย ฉุนเฉียว ก้าวร้าว และอาจแสดงพฤติกรรมที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ เช่น การถามคำถามเดิมซ้ำๆ หรือดื้อรั้นจะทานอาหารแม้ว่าจะเพิ่งทานไป
ผู้ดูแลต้องพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะอารมณ์ และส่งเสริมให้ผู้ป่วยดูแลตนเองให้มากที่สุด โดยการทำให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น เช่น วางของไว้ในตำแหน่งเดิม จัดลำดับสิ่งของที่ต้องใช้ก่อน - หลัง ดูแลกิจวัตรให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน กินอาหาร และออกกำลังกายอย่างเพียงพอ พาไปทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือออกไปพบปะเพื่อนเป็นครั้งคราว เพื่อลดความเครียด หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ ซึมเศร้ามาก เห็นภาพหลอน ควรปรึกษาแพทย์
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved