โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต! มาสังเกตอาการของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที สาเหตุของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีอะไรบ้าง ป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง สามารถหาคำตอบพร้อมวิธีรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ในบทความนี้
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ คือความผิดปกติของกระแสไฟฟ้า หรือการนำไฟฟ้าของหัวใจ ส่งผลทำให้การหมุนเวียนเลือดผิดปกติ จึงเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ใจสั่น หัวใจเต้นช้าผิดปกติ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หรือหัวใจเต้นเร็วสลับเต้นช้า จากปกติที่หัวใจเต้นด้วยอัตรา 60 - 100 ครั้งต่อนาที อาจเกิดการเต้นช้าต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที เต้นเร็วมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที หรือเต้นเร็วสลับเต้นช้า
โดยสถิติผู้ป่วยในไทยพบว่า ในคนไทย 1,000 คน สามารถพบผู้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมากถึง 40 คน อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะบางประเภทไม่เป็นอันตราย แต่บางประเภทอาจก่อให้เกิดภาวะอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาวะเลือดตกค้าง ภาวะหัวใจห้องบนสั้นพลิ้ว ภาวะหัวใจหยุดเต้น หรืออาจเกิดลิ่มเลือดที่มีโอกาสหลุดไปที่สมองจนเกิดภาวะอัมพาตได้ บางภาวะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยประเภทของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถแบ่งได้ดังนี้
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่มีลักษณะของอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ สามารถจำแนกเป็นภาวะต่างๆ ดังนี้
การที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอกจากภาวะหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติแล้ว อาการที่หัวใจเต้นช้ากว่าปกติก็สามารถพบเห็นได้เช่นเดียวกัน โดยจำแนกเป็นภาวะต่างๆ ได้ดังนี้
ภาวะหัวใจเต้นสะดุด หัวใจจะมีจังหวะการเต้นที่เพิ่มขึ้นจากหัวใจห้องบนหรือห้องล่าง ทำให้รู้สึกว่าหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนไม่เพียงพอ ออกกำลังกายหนักเกินไป ได้รับสารบางชนิด เช่น นิโคติน หรือคาเฟอีน ตามปกติแล้วภาวะนี้ไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ บางครั้งอาจไม่แสดงอาการให้รู้สึกถึงความผิดปกติ จึงมักตรวจพบโดยบังเอิญ ทั้งนี้สามารถสังเกตอาการบางอย่างในเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง โดยร่างกายอาจส่งสัญญาณเตือนได้ดังนี้
สาเหตุของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพหรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
หากต้องการเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยว่ามีโอกาสเข้าข่ายโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือไม่ แพทย์จะมีขั้นตอนต่างๆ เพื่อตรวจสอบวินิจฉัย ดังนี้
วิธีรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นอยู่กับสาเหตุ อาการ รูปแบบ และความรุนแรงของหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยวิธีการรักษา มีดังนี้
วิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีดังนี้
เพื่อสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงโรงพยาบาลวิภาวดีมีบริการตรวจวินิจฉัยการเต้นของหัวใจ รวมถึงตรวจหาความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบถึงสุขภาพหัวใจ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษา เพื่อหาวิธีการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เหมาะสมที่สุด
โรงพยาบาลวิภาวดีก็ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพหัวใจของผู้ป่วยทุกคน โดยมีการตรวจสุขภาพหัวใจที่รวบรวมการตรวจพิเศษเฉพาะ และตรงกับความต้องการของแต่ละคน
เพื่อให้การรักษาสามารถทำได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถนัดหมายได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลวิภาวดีและสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ที่นี่และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ประกันผู้ป่วย สามารถสอบถามค่าใช้จ่าย และค่าผ่าตัดประมาณการได้ที่แผนกผู้ป่วยในโทรศัพท์: 02-561-1111 ต่อ 4137,4139นอกจากนี้ยังมีช่องทางสำหรับการติดต่อของตัวแทนประกันชีวิตต่างๆ ทางLine ID: @vibhainsurance
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในหัวใจ ส่งผลทำให้การหมุนเวียนเลือดผิดปกติ จึงเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะตามมา ซึ่งแบ่งออกเป็น ภาวะหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ ภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ และภาวะหัวใจเต้นสะดุด สาเหตุของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีอยู่หลายสาเหตุ ควรเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม แต่ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ที่โรงพยาบาลวิภาวดีเรามีบริการตรวจสุขภาพหัวใจที่ครบครัน พร้อมดูแลให้ปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหัวใจที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ
สำหรับใครที่สนใจแพ็กเกจตรวจสุขภาพของทางโรงพยาบาลวิภาวดี สามารถเข้าไปเลือกซื้อแพ็กเกจที่เหมาะสม หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-561-1111
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีดังนี้
เมื่อเกิดอาการหายใจไม่ทัน วิงเวียนศีรษะ เป็นลม หน้ามืด เจ็บหน้าอก ใจสั่น รู้สึกหัวใจเต้นเร็วเกินไป ช้าเกินไป หรือไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการให้แน่ใจ
หากมีอาการไม่มากนัก สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดมากจนเกินไป หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ทั้งนี้ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะบางประเภทอาจจำเป็นต้องกินยาหรือทำการรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
ห้ามกินอาหารที่มีไขมันสูง เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารแปรรูป อาหารรสเค็มจัดและหวานจัด อาหารที่ปรุงโดยใช้น้ำมันมากๆ อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และน้ำอัดลม
บางประเภทไม่เป็นอันตราย แต่บางประเภทสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้
หัวใจของเราประกอบด้วย 4 ห้อง ได้แก่ ห้องบนขวา ห้องบนซ้าย ห้องล่างขวา และห้องล่างซ้าย โดยกลุ่มเซลล์บริเวณผนังหัวใจห้องบนขวา (Sinus node) ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สัญญาณไฟฟ้าหัวใจจะเริ่มต้นถูกส่งไปกระตุ้นหัวใจห้องบนขวาและซ้ายก่อน จากนั้นสัญญาณไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านไปยังจุดเชื่อมต่อของหัวใจห้องบนและห้องล่าง (AV node) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมสัญญาณให้จังหวะการสูบฉีดเลือดจากห้องบนมาห้องล่างเป็นไปอย่างเหมาะสม ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นไปตามปกติ และเลือดถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายได้มีประสิทธิภาพ
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved