โรคกระดูกพรุน เป็นหนึ่งในภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพโดยรวม บทความนี้จึงจะพามาป้องกันโรคกระดูกพรุน ก่อนที่กระดูกจะหัก ด้วยการสังเกตอาการ แล้วมาดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษา เพื่อไม่ให้กระทบต่อร่างกายในภายหลัง
โรคกระดูกพรุน หรือ Osteoporosis คือภาวะที่มวลและความหนาแน่นของกระดูกน้อยลง โดยส่วนที่พบมากที่สุด ได้แก่ กระดูกข้อสะโพก กระดูกสันหลัง และกระดูกปลายแขน ส่งผลให้กระดูกเปราะบาง แตกหักได้ง่ายและผิดรูป ทำให้ไม่สามารถรับแรงกระแทกหรือรับน้ำหนักร่างกายได้
ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้และอันตรายมากขึ้นเมื่อประสบอุบัติเหตุ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาภายหลัง ปัจจุบันประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนมากกว่า 1 ล้าน ซึ่งกว่า 25% เป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
หากแบ่งตามสาเหตุของการเกิดโรค ปัจจุบันสามารถแบ่งโรคกระดูกพรุนได้เป็น 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและปัจจัยดังต่อไปนี้
โรคกระดูกพรุนชนิดปฐมภูมิหรือ Primary Osteoporosis เป็นภาวะกระดูกพรุนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และพบได้ในกลุ่มคนดังต่อไปนี้
โรคกระดูกพรุนชนิดทุติยภูมิหรือ Secondary Osteoporosis เป็นภาวะกระดูกพรุนเกิดจากระบบการทำงานอื่น ๆ ของร่างกายและสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ดังนี้
เนื่องด้วยโรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับกระดูกภายในร่างกาย จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่ากำลังมีปัญหากระดูกพรุน กว่ารู้ตัวอีกทีก็ตอนประสบอุบัติเหตุกระดูกหัก แต่ในความจริง สามารถสังเกตอาการได้ง่ายๆ ดังนี้
โรคกระดูกพรุนเกิดจากกระบวนทำงานของเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกขึ้นใหม่ ไม่สมดุลกับกระบวนทำงานของเซลล์สลายกระดูก ที่มีหน้าที่ตรงกันข้ามคือสลายเนื้อกระดูกเก่าในร่างกาย ทำให้มวลกระดูกในร่างกายลดลงจากการสลายตัวมากกว่าการสร้าง จึงตามมาด้วยปัญหากระดูกพรุน ทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของเซลล์กระดูกหรือปริมาณแคลเซียมในร่างกายไม่เพียงพอต่อการสร้างกระดูก
ไม่เพียงแต่ความไม่สมดุลในการทำงานของเซลล์สร้างและสลายกระดูกเท่านั้น แต่ปัญหากระดูกพรุนยังมีอีกหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้กระดูกพรุนมากขึ้น ดังนี้
หากเป็นโรคกระดูกพรุน แน่นอนว่าเรื่องที่ต้องระวังมากที่สุดนั้นหนีไม่พ้นอุบัติเหตุ เพราะเมื่อล้มลงอาจทำให้กระดูกแตกหักได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มีปัญหากระดูกพรุน แต่อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการตรวจทางรังสีเพื่อประเมินความหนาแน่นอนของกระดูก (Bone Mineral Density หรือ BMD) ด้วยเครื่อง DXA เทียบกับค่ามวลกระดูกเฉลี่ยของคนที่มีอายุน้อย ดังนี้
การรักษาหลังจากได้รับการวินิจฉัยและประเมินภาวะกระดูกพรุนแล้ว แพทย์จะประเมินอาการเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะผู้ป่วยแต่ละรายมีความเสี่ยงและอาการที่แตกต่างขึ้น แต่ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการรักษาคือลดโอกาสเกิดภาวะกระดูกหัก ซึ่งโรคกระดูกพรุนรักษาได้ทั้งแบบไม่ใช้ยาและใช้ยาบรรเทาอาการ ดังนี้
การรักษาแบบไม่ใช้ยา เป็นการรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุน ทั้งเรื่องอาหาร การเสริมวิตามิน การออกกำลังกาย การเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ โดยแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
การรักษาแบบใช้ยา เป็นการรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งยารักษาปัญหากระดูกพรุนที่ใช้ในประเทศไทยแบ่งได้ 2 กลุ่ม ดังนี้
แม้ว่าปัญหากระดูกพรุนจะเป็นอาการที่ป้องกันได้ยาก เพราะปัจจัยหลักมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่สามารถป้องกันและชะลอการเสื่อมสลายของมวลกระดูกได้ ดังนี้
การรักษาโรคกระดูกพรุนของโรงพยาบาลวิภาวดีดำเนินการโดยแผนกศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ด้วยบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย การรักษา การผ่าตัดกระดูกและข้อ โดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อที่ผ่านการอบรมจากสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือและห้องผ่าตัดที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย สะดวกสบายอีกด้วย
เพื่อให้การรักษาสามารถทำได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถนัดหมายได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลวิภาวดีและสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ที่นี่และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ประกันผู้ป่วย สามารถสอบถามค่าใช้จ่าย และค่าผ่าตัดประมาณการได้ที่แผนกผู้ป่วยในโทรศัพท์: 02-561-1111 ต่อ 4137,4139นอกจากนี้ยังมีช่องทางสำหรับการติดต่อของตัวแทนประกันชีวิตต่างๆ ทางLine ID: @vibhainsurance
จะเห็นได้ว่าโรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่มีอันตรายและส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันมาก เพราะเมื่อมวลและความหนาแน่นของกระดูกลดลง จะเสี่ยงทำให้กระดูกแตกหักได้ง่าย โดยโรคนี้ก็มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งอายุ เพศ กรรมพันธ์ุ การขาดแคลเซียมและวิตามินดี ภาวะโรค การใช้ยาบางประเภท และพฤติกรรมส่วนตัว ทั้งนี้ภาวะกระดูกพรุนสามารถรักษาได้ทั้งแบบไม่ใช้ยาและแบบใช้ยา
เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ จึงขอแนะนำโรงพยาบาลวิภาวดีให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีบริการตรวจวินิจและการรักษาแบบครบวงจร ดำเนินการโดยทีมแพทยผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์การโรคกระดูกพรุน การผ่าตัดกระดูก และการรักษาโรคกระดูกโดยเฉพาะ
หรือใครอยากจะตรวจสุขภาพประจำปี ก็ลองดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพของทางโรงพยาบาลวิภาวดีได้เลย โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อแพ็กเกจที่เหมาะสม หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-561-1111
สำหรับคนที่มีคำถามสงสัย เรามีคำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับภาวะกระดูกพรุนและคำตอบมาฝากกัน!
บริเวณที่พบปัญหากระดูกพรุนมากที่สุด ได้แก่กระดูกข้อสะโพก กระดูกสันหลัง กระดูกปลายแขน
โรคกระดูกพรุนไม่สามารถหายได้เอง ต้องรักษาด้วยยากินหรือยาฉีด รวมถึงดูแลสุขภาพและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
วิตามินดี เพราะเป็นวิตามินที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้เล็ก สำหรับแหล่งอาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ เนื้อปลา เห็ด ตับ น้ำมันตับปลา ไข่แดง นอกจากนี้ แสงแดดอ่อนๆ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างวิตามินดีในร่างกายอีกด้วย
คนที่มีปัญหากระดูกพรุนควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด อาหารสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง หรือน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน
ควรออกกำลังกายในท่าที่มีการลงน้ำหนักที่กระดูก อย่างการเดิน วิ่งเหยาะๆ แอโรบิค ขี่จักรยาน เพื่อกระตุ้นให้กระดูกหนาขึ้น
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved