โรคหลอดเลือดสมอง

  • โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะที่สมองขาดเลือดจากการที่หลอดเลือดตีบ อุดตัน จนไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังสมองได้ตามปกติ
  • อาการโรคหลอดเลือดสมองสังเกตได้จากผู้ป่วยสูญเสียการทรงตัว สายตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ มีปัญหาในการสื่อสาร
  • สาเหตุโรคหลอดเลือดสมอง แบ่งเป็น 2 สาเหตุใหญ่ คือ เลือดออกในสมอง และ สมองขาดเลือดไปเลี้ยง
  • โรคหลอดเลือดสมองรักษาได้โดยวิธีการใช้ยา เช่น ยาสลายลิ่มเลือด ยาลดไขมัน ยาลดความดันโลหิต ยาแอสไพริน หรือแพทย์อาจเลือกวิธีการอื่นๆ ในการรักษาตามความเหมาะสม เช่น การผ่าตัดสมอง และการใส่สายสวนเพื่อเปิดหลอดเลือด

โรคหลอดเลือดสมอง โรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้จะพาไปดูโรคหลอดเลือดสมองว่ามีอาการอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร พฤติกรรมใดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค และมีวิธีการรักษาอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เสี่ยงเป็นอัมพาตหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร

โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร

โรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะสมองขาดเลือด ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือมีเลือดออกในสมอง อาการของโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้ขัดขวางการลำเลียงเลือด ออกซิเจน และสารอาหารไปยังสมอง ส่งผลให้สมองตาย สูญเสียการทำหน้าที่ต่างๆ จนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ทุพพลภาพ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ สถิติในไทยพบว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหรือพิการสูงเป็นอันดับ 2 และ 3 ในเพศหญิงและเพศชาย ตามลำดับ

โรคหลอดเลือดสมองมีกี่ประเภท

โรคหลอดเลือดสมองมีกี่ประเภท

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประเภทนี้ พบได้บ่อยถึง 85% โดยมีอาการความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบหรืออุดตัน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากหลายปัจจัย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน การกินอาหารที่มีไขมันสูง สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ หรือเส้นเลือดสมองอุดตันได้จากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิด และโรคเลือดบางชนิด ผู้ป่วยอาจมีโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดส่วนปลายแขนขาตีบร่วมด้วยก็ได้

โรคหลอดเลือดสมองแตก

โรคหลอดเลือดสมองแตกพบได้ประมาณ 15% ของโรคหลอดเลือดสมอง มักเกี่ยวข้องกับโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานจนหลอดเลือดสมองแตก โดยอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาบางชนิด

สังเกตอาการโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง มักมีอาการเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยสามารถสังเกตสัญญาณเตือนของร่างกายตามหลักการ BE FAST ได้ดังนี้

  • B (ฺBalance)สูญเสียการทรงตัว ร่างกายไม่สามารถทรงตัวได้ตามปกติ เดินเซ นั่งหรือยืนไม่มั่นคง
  • E (Eye)สายตาผิดปกติ พร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน มองเห็นภาพเบี้ยว ปวดตา สูญเสียการมองเห็นอย่างเฉียบพลัน
  • F (Face)ใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว มุมปากตก ยิ้มไม่เท่ากัน ยกคิ้วข้างใดข้างหนึ่งไม่ขึ้น หนังตาปิดไม่สนิท
  • A (Arm)แขนขาอ่อนแรง ไร้เรี่ยวแรง หรือเกิดอาการชาซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย
  • S (Speech)การพูดและสื่อสารผิดปกติ พูดติดขัด ออกเสียงลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ พูดติดอ่าง
  • T (Time)เวลามีอาการผิดปกติ หรือมีอาการสงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ให้รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หรือโทรแจ้ง 1669 เนื่องจากการรักษาภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากเริ่มมีอาการมีความสำคัญมาก ถ้าหากช้ากว่านี้อาจทำให้เซลล์สมองตาย ฟื้นตัวได้ยาก

อาการของโรคหลอดเลือดสมองมีกี่ระยะ

อาการของโรคหลอดเลือดสมองแบ่งตามความรุนแรง ระยะเวลา และตำแหน่งที่เกิดการตีบตันของหลอดเลือด โดยแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้

  • ระยะอาการน้อยผู้ป่วยจะมีอาการพูดไม่ชัด มุมปากตก แขนขาอ่อนแรง แต่พอเดินได้ ไม่มีอาการปวดศีรษะ
  • ระยะอาการปานกลางร่างกายของผู้ป่วยจะมีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แขนขาอ่อนแรงมากจนขยับไม่ได้ และไม่สามารถพูดได้ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หากไม่รีบรักษาให้ทันท่วงที เมื่อได้รับการรักษาแล้วผู้ป่วยจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดในสัปดาห์ที่ 3 แต่มักจะไม่สามารถกลับมาเป็นปกติดังเดิมได้
  • ระยะอาการหนักโรคหลอดเลือดสมองระยะอาการหนัก ผู้ป่วยมักจะไม่รู้สึกตัว และอาการแย่ลงเร็วมากภายใน 24 ชั่วโมง ระยะนี้สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดสมองตีบตันขนาดใหญ่ในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือเคยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตมาก่อน

สาเหตุของโรคหลอดเลือดในสมอง

สาเหตุของโรคหลอดเลือดในสมอง

สาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดในสมอง ที่ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ตามปกติ แบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ ดังนี้

เลือดออกในสมอง (Acute Hemorrhagic Stroke)

การที่เลือดออกในสมองทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ เกิดได้จาก 2 สาเหตุ ได้แก่

  • ภาวะเลือดออกในสมองจากการแตกของหลอดเลือดในสมอง โดยอาจเริ่มมาจากความดันโลหิตสูงมาเป็นระยะเวลานาน

  • ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองจากการที่ผนังหลอดเลือดโป่งพองที่ฐานสมอง จนเกิดการแตก

สมองขาดเลือดไปเลี้ยง (Acute Ischemic Stroke)

การที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเกิดได้จาก 3 สาเหตุ ได้แก่

  • หลอดเลือดที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปลำเลียงสมองเกิดการเสื่อม มีการแข็งตัว จนค่อยๆ ตีบลงจนอุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้จนสมองขาดเลือดในที่สุด
  • เกิดลิ่มเลือด ก้อนไขมัน หลุดออกจากหัวใจ หรือหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ จนเกิดการไหลไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง
  • เกิดจากความดันเลือดต่ำจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมอง

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมอง

ปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหลอดเลือดปลายขาตีบ
  • การสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่เป็นประจำ
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากๆ
  • การใช้สารเสพติด
  • ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • การใช้ยาบางชนิด และยาคุมกำเนิด
  • ความเครียด
  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่มีอัตราการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ
  • การบริโภคอาการที่มีไขมันสูง
  • ผู้ที่มีปัญหาการนอนกรน

โรคหลอดเลือดสมองกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

โรคหลอดเลือดสมองเสี่ยงทำให้เกิดอาการหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราว หรืออาจทำให้ร่างกายพิการถาวร ขึ้นกับความรุนแรงและระยะเวลาที่สมองขาดเลือด โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  • อัมพาตผู้ป่วยจะไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกายได้
  • มีปัญหาในการพูดการกลืน หรือการกินอาหาร มีปัญหาในการสื่อสาร พูดไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ อ่านและเขียนหนังสือไม่ได้
  • มีปัญหาด้านสมองผู้ป่วยอาจสูญเสียความทรงจำ ไม่สามารถคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจในสิ่งต่างๆ ได้
  • มีปัญหาด้านการจัดการอารมณ์อารมณ์แปรปรวน และอาจเกิดภาวะซึมเศร้าได้
  • รู้สึกเจ็บปวดเจ็บแปลบ หรือชา ในส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากโรคหลอดเลือดสมอง
  • มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเริ่มแยกตัวจากสังคม ไม่สามารถดูแลตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวัน

ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง

ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง

เมื่อผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเองแล้วสงสัยว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

  • แพทย์จะทำการซักประวัติ และตรวจร่างกาย
  • เจาะเลือดเพื่อตรวจความผิดปกติ
  • ตรวจ CT scan หรือ ตรวจ MRI เพื่อวินิจฉัยให้ชัดเจนจากโรคที่มีอาการใกล้เคียงกัน
  • ตรวจหลอดเลือดแดงที่คอด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
  • ตรวจโดยการฉีดสีเข้าหลอดเลือดสมอง
  • การตรวจ Sleep Test เพื่อหาความผิดปกติระหว่างการนอนหลับ

วิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง มีวิธีการรักษาหลักๆ คือ การรักษาด้วยการใช้ยา และวิธีอื่นๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

การรักษาด้วยการใช้ยา

แพทย์จะสั่งยาเพื่อช่วยลดอาการกำเริบของโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดไขมัน ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคเบาหวาน ยาสลายลิ่มเลือดเพื่อเพิ่มโอกาสฟื้นตัวจากอาการพิการ หรือยาแอสไพรินเพื่อลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันซ้ำและลดโอกาสการเสียชีวิตได้

การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ

ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และมีอาการสมองขาดเลือด แพทย์อาจเลือกวิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมองด้วยวิธีอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาด้วยการใช้ยา เช่น รักษาโดยการผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อเอาไขมันในหลอดเลือดออกมา การใส่สายสวนเพื่อเปิดหลอดเลือด การผ่าตัดเปิดกะโหลกในผู้ป่วยที่มีอาการสมองบวมขาดเลือดในบริเวณกว้าง หรือการสวนหลอดเลือดและใส่ขดลวด ในกรณีที่เกิดจากหลอดเลือดโป่งพอง

ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร

โรคหลอดเลือดสมอง ป้องกันได้จากการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มีโอกาสทำให้หลอดเลือดอุดตัน ตีบ หรือแตกได้ โดยมีวิธีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว ดังนี้

  • ควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูง คลอเรสเตอรอลสูง อาหารรสเค็ม
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • เลิกสูบบุหรี่ และลดการดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด
  • กินผักผลไม้ให้มากขึ้น
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ควบคุมอาการของโรคประจำตัวต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อโรคหลอดเลือดสมอง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
  • เข้ารับการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

รักษาโรคหลอดเลือดสมองที่โรงพยาบาลวิภาวดี

หากใครที่สงสัยว่าตัวเองหรือคนที่คุณรัก มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือต้องการเข้ารับการรักษาอาการโรคหลอดเลือดสมองโรงพยาบาลวิภาวดีมีทีมแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเลือกวิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมองให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละบุคคล

นอกจากนี้โรงพยาบาลวิภาวดีเรามีโปรแกรมตรวจคัดกรองหลอดเลือดสมองซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงและแนวทางการดูแลตัวเอง เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคในอนาคต โดยการตรวจหลอดเลือดหรือเส้นเลือดในสมองมีราคาอยู่ที่ 17,900 - 20,900 บาท สามารถนัดหมายหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ โทร 02-058-2111 ต่อ 1214

สรุป

โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะที่สมองขาดเลือด ทำให้เกิดอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การสูญเสียการทรงตัว สายตาผิดปกติ มีปัญหาการสื่อสาร แขนขาอ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาต ตลอดจนสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยสาเหตุหลักเกิดจากเลือดออกในสมอง หรือสมองขาดเลือดไปเลี้ยง พฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคประจำตัว รวมถึงการใช้ยาบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ วิธีการรักษาแพทย์มักจะสั่งยาเพื่อลดอาการต่างๆ และทำให้ร่างกายค่อยๆ ฟื้นตัว หรืออาจเลือกวิธีการรักษาอื่นๆ ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง

หากต้องการตรวจคัดกรองหลอดเลือดสมองก่อนที่จะสายเกินไป ที่โรงพยาบาลวิภาวดีเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการวินิจฉัยโรค พร้อมให้คำปรึกษาดูแลผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

FAQ

บทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ การป้องกัน และวิธีการรักษาโรคหลอดเลือดสมอ พร้อมคำตอบจากแพทย์มาคลายข้อสงสัยเพิ่มเติม ดังนี้

จะรู้ได้อย่างไรว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ?

สัญญาณเตือนที่บอกถึงการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ คือพบความผิดปกติในการมองเห็น ร่างกายอ่อนแรง บกพร่องทางการสื่อสาร รู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ เกิดอารมณ์สับสนเป็นเวลานาน

ต้องกินอะไรเพื่อช่วยบํารุงเส้นเลือดในสมอง?

ควรเน้นโปรตีนจากปลาและพืช เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแม็คคลอเรล ปลากะพงขาว ปลาดุก ปลาทู นมพร่องมันเนย เต้าหู้ และผลิตภัณฑ์จากถั่ว นอกจากนี้ยังควรเน้นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหาร เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก และผลไม้ไม่หวานจัด

โรคหลอดเลือดสมองหายได้ไหม?

รักษาหายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่ได้เริ่มต้นทำการรักษา หากไปถึงโรงพยาบาลยิ่งเร็ว ผู้ป่วยก็ยิ่งมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีจนกลับมาเป็นปกติได้ และควรใส่ใจการดูแลรักษาสุขภาพหลังจากหายจากอาการป่วย เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

คนเป็นโรคหลอดเลือดสมองห้ามกินอะไร?

ห้ามกินอาหารแปรรูป อาหารรสเค็มจัดและหวานจัด อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีไขมันสูงและไขมันทรานส์ งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

การรักษาโรคเส้นเลือดในสมองให้ดีขึ้นอยู่กับอะไร?

ขึ้นอยู่กับเวลา หากได้รับการรักษาเร็วยิ่งมีโอกาสหายเป็นปกติ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ยาที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีในการรักษา และความเชี่ยวชาญของแพทย์

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111